Site icon Thumbsup

ความจริง (เพียงครึ่งเดียว) ของสำนวนเท่ๆ ทางธุรกิจ

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้มีสำนวนคมๆ ทางธุรกิจให้เราอ่านกันเสมอในโลกโซเชียล ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องดีนะคะ แต่วันนี้มีอีกด้านหนึ่ง หรือจะเรียกว่าเป็นด้านมืดของสำนวนเท่ๆ ที่เราเห็นกันบ่อยๆ จาก smallbiztrends มาแปลให้อ่านกันดูค่ะ ที่เรียกว่าด้านมืดก็เพราะมันเป็นความจริงเพียงครึ่งเดียว และไม่ใช่ว่าจะนำไปประยุกต์ใช้ได้กับทุกคน  แถมยังอาจจะส่งผลเสียมากกว่าผลดีซะด้วย

1. ทำในสิ่งที่รัก
หากจะเริ่มต้นทำธุรกิจอะไรสักอย่าง คุณคงคิดว่ามันควรจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากสิ่งที่คุณรัก ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่ลองนึกๆ ดูว่ามีธุรกิจจำนวนมากขนาดไหนแล้วที่เริ่มต้นมาจากสิ่งที่เจ้าของธุรกิจรัก แต่มันก็ยังคงพังไม่เป็นท่า ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหาร งานออกแบบ แฟชั่น ดนตรี ยานยนต์ การท่องเที่ยว และอื่นๆ ดังนั้น การทำในสิ่งที่รักยังคงไม่เพียงพอที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ มันต้องมีอะไรมากกว่านั้น

ผู้เขียนบทความนี้ยังบอกอีกว่าสำนวนคมๆ ประเภท “ทำในสิ่งที่รัก เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องทำงานอีกเลยตลอดชีวิต” น่าจะมาจากคนที่ไม่เคยทำธุรกิจจริงๆ เพราะความเป็นจริงคือการทำในสิ่งที่รักอย่างเดียวมันไม่พอหรอก มันจะต้องทำในสิ่งที่สำคัญมากพอให้คนยอมจ่ายเงินต่างหาก มันจึงไม่ใช่สิ่งที่คุณรัก แต่เป็นสิ่งที่ลูกค้าของคุณจะรัก
สิ่งที่คุณควรจะทำคือสร้างมูลค่าให้กับสินค้า โฟกัสไปที่ตลาดที่มีอยู่จริงๆ และเสนอประโยชน์ที่คู่ควรกับการจ่ายเงินของลูกค้าด้วยทรัพยากรที่คุณมีอยู่ ความจริงเพียงครึ่งเดียวในข้อนี้คือ ในกรณีที่คุณทำสิ่งเหล่านี้ครบทั้งหมดแล้ว การได้ทำในสิ่งที่รักก็ถือเป็นข้อได้เปรียบ มันจะช่วยให้คุณผ่านช่วงเวลายากลำบากเมื่อเริ่มต้นธุรกิจไปได้โดยที่คุณจะไม่เหนื่อยและไม่เบื่อไปซะก่อน

2. จงยืนหยัด และมุมานะ
“จงอย่าหยุดพยายาม แล้วคุณจะประสบความสำเร็จ” คือคำแนะนำทางธุรกิจที่แย่ที่สุด และที่แย่กว่านั้นคือมันเป็นประโยคคลาสสิคที่ใครต่อใครก็พูดกัน
ความจริงเพียงครึ่งเดียวในเรื่องการยืนหยัดและความพยายามนี้คือ ในบางเคส (หรือหลายๆ เคส) ธุรกิจที่ดูเหมือนจะล้มเหลวอาจจะต้องการเวลาอีกเล็กน้อย หรือการปรับปรุงอะไรบางอย่าง หรือยังโฟกัสไม่ถูกจุด ซึ่งการพยายามต่อไปก็น่าจะทำให้ประสบความสำเร็จได้ คนที่บอกให้คุณพยายามต่อเขาไม่ได้โกหกหรอก แต่ส่วนที่ยากคือ คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าคุณอยู่ในเหตุการณ์แบบไหน คุณแค่ต้องการเวลาให้มากอีกนิด? หรือคุณต้องถอนตัว? ถ้าเป็นอย่างหลัง คุณจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร การยืนหยัดและยึดมั่นตามแผนเดิมก็คงไม่มีประโยชน์เพราะมันไม่ต่างจากการวิ่งชนกำแพงครั้งแล้วครั้งเล่า

3. ความเชื่อเรื่องไอเดียทางธุรกิจ
คนส่วนมากประเมินบทบาทของไอเดียทางธุรกิจสูงเกินไป ประมาณว่าไอเดียที่ดีจะเป็นเครื่องการันตีความสำเร็จอะไรทำนองนั้น ส่วนไอเดียที่ดูงั้นๆ ไม่น่าสนใจ ไอเดียที่เหมือนกับคนอื่น จะเป็นตัวการันตีความล้มเหลวอย่างแน่นอน ก่อนที่จะเชื่อ ลองมาดูตัวอย่างเหล่านี้กันดีกว่า

Apple ไม่ใช่ผู้ผลิตเครื่อง PC รายแรก ส่วน Google ก็ไม่ใช่ Search Engine อันแรก และ Starbucks ก็ไม่ใช่ร้านแรกที่ยกระดับประสบการณ์ในการดื่มกาแฟ หรือในหมวดอุตสาหกรรมยานยนต์ ลองดูรถในดวงใจใครหลายๆ คนอย่างMini-Cooper ก็เป็นรถที่ได้รับการต่อยอดแนวคิดมาจาก Volkswagen ยุค 60 ตัวอย่างทั้งหมดนี้บอกกับว่าเราว่า ไอเดียดีๆ มันมาจากการก๊อปปี้อยู่ตลอดเวลานั่นแหละ

ความจริงเพียงครึ่งเดียวในเรื่องไอเดียทางธุรกิจนี้คือ แน่นอนอยู่แล้วว่าความคิดดีๆ ถือเป็นข้อได้เปรียบ และความคิดทางธุรกิจที่แย่มันก็แย่จริงๆ นั่นแหละ แล้วอะไรล่ะที่เป็นประเด็นในหัวข้อนี้ หัวใจสำคัญของตัวอย่างที่พูดมาทั้งหมด ไม่ใช่ไอเดีย แต่เป็นการลงมือทำต่างหาก มีธุรกิจจำนวนมากที่ไม่ได้พูดถึงไอเดียใหม่ๆ แต่พวกเขานำเสนอแง่มุมใหม่ๆ หรือทำอะไรๆ ให้มันง่ายขึ้น ลองคิดดูว่าคุณชอบร้านอาหารใหม่ๆ เพราะอะไร เพราะไอเดียทางธุรกิจของร้านหรือเพราะการบริการที่ดี  ธุรกิจส่วนมากจะมีพื้นฐานมาจากการทำให้แตกต่างจากธุรกิจอื่นๆ มากกว่าที่จะเป็นการสรรค์สร้างขึ้นมาใหม่