Site icon Thumbsup

รบทุกครั้งชนะตลอด ก้าวใหม่ “Zanroo” สู่การระดมทุน 7.4 ล้านดอลล์ เตรียมปักธงตลาด MarTech “สหรัฐอเมริกา-จีน”

คุณชิตพล มั่งพร้อม (ซ้าย) และคุณอุดมศักดิ์ ดอนขำไพร สองผู้ก่อตั้ง Zanroo

วันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งวันที่วงการสตาร์ทอัปเมืองไทยได้ข่าวที่น่ายินดี กับการประกาศขยายธุรกิจของ “Zanroo” มาร์เทคสตาร์ทอัปสัญชาติไทยที่มีผลประกอบการเติบโตแบบก้าวกระโดดกว่า 200 – 400% ต่อปีนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท โดยล่าสุด Zanroo ได้พาบริษัทเข้าสู่การระดมทุนครั้งแรกที่มูลค่า 7.4 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมตั้งเป้าขยายพื้นที่บริการจาก 15 ประเทศเป็น 40 ประเทศทั่วโลกแล้วซึ่งหนึ่งในตลาดเป้าหมายนั้นมี “สหรัฐอเมริกา และจีน” เป็นสองตลาดสำคัญด้วย

การรู้ในสิ่งที่ธุรกิจต้องการรู้ แถมยังเป็นข้อมูลเจาะลึกระดับเรียลไทม์ (วินาที) และการมีบริการแบบครบวงจรที่สามารถช่วยธุรกิจทั้งเบอร์ต้น ๆ หรือเบอร์รอง ๆ ให้รอดพ้นจากวิกฤติได้ เป็นจุดเด่นที่ทำให้ Zanroo ตีตลาดผู้ให้บริการด้าน Social Marketing จนเบอร์ใหญ่ ๆ พ่ายมาแล้วในหลายประเทศ ไม่เฉพาะในประเทศไทย โดย Zanroo ได้บุกมาแล้วทั้งมาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ พม่า กัมพูชา เวียดนาม ฮ่องกง ไต้หวัน ศรีลังกา ปากีสถาน ญี่ปุ่น และอังกฤษ ซึ่งมีลูกค้าชั้นนำให้ความไว้วางใจกว่า 300 แบรนด์ครอบคลุมในหลาย ๆ ธุรกิจ เช่น สถาบันการเงิน ยานยนต์ โทรคมนาคม การบิน สินค้าอุปโภคบริโภค และ E-commerce

“ความโดดเด่นของ Zanroo คือบริการที่ครบวงจรทั้งด้านซอฟต์แวร์ และด้าน Consultant ซึ่งในด้านซอฟต์แวร์เรามีทั้ง Social Listening, Social Engagement ที่สามารถเจาะลึกเข้าถึงข้อมูลของสังคมออนไลน์ยอดนิยมในแต่ละประเทศ และมีความแม่นยำในการตีความภาษาท้องถิ่น ส่วนด้าน Consultant เราสามารถวิเคราะห์ผลได้อย่างแม่นยำ ทำให้สามารถนำข้อมูล Insight ไปต่อยอดให้ลูกค้าวางกลยุทธ์ทางการตลาดที่เป็นประโยชน์ต่อแบรนด์ หรือจะใช้ในการบริหารวิกฤติก็สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ” คุณชิตพล มั่งพร้อม ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Zanroo กล่าว

ยกตัวอย่างแบรนด์ที่เป็น top spender ของ Zanroo (บางรายสูงถึงหลักล้านบาทต่อเดือน) ได้แก่ เครือ CP, L’Oreal, Nestle และ Pepsico เป็นต้น

นอกจากนั้นแล้ว Zanroo ยังเป็นแบรนด์แรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้การรับรองมาตรฐาน ISO 27001 ซึ่งเป็นมาตรฐานด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้าด้วย

ทั้งนี้ การเติบโตที่ผ่านมาจนสามารถบุกได้ 15 ตลาดทั่วเอเชียและก้าวไปถึงออสเตรเลียและอังกฤษนั้น คุณชิตพล  เผยว่า เป็นการใช้เงินของบริษัทเองทั้งสิ้น Zanroo ยังไม่เคยมีการระดมทุนใด ๆ มาก่อน แต่ก้าวต่อไปนับจากนี้ ซึ่ง Zanroo ตั้งเป้าจะบุกตลาดโลกนั้น จำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมให้มากกว่าเดิม นั่นจึงนำไปสู่การระดมทุน Series A ที่ 7.4 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 259 ล้านบาทภายใต้การร่วมมือของบริษัทที่ปรึกษาธุรกิจ Shift Ventures ที่นอกจากจะช่วยในด้านการระดมทุนแล้ว ยังมีส่วนในการวางโครงสร้างธุรกิจสู่ระดับโลก และแนะนำ Zanroo สู่กลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ และหาพันธมิตรเพื่อขยายธุรกิจในต่างแดนด้วย

โดยการเติบโตขั้นต่อไปของ Zanroo คือการก้าวสู่ตลาด MarTech และ AdTech ระดับโลกที่มีมูลค่ากว่า 24.18 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่ง Zanroo จะนำเงินลงทุนที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ในสามส่วนได้แก่ ด้าน R&D เพื่อพัฒนาโปรดักซ์ใหม่ (40%), พัฒนาทีมงานและองค์กร (30%), และพัฒนาด้าน Marketing (30%)

คุณชิตพล มั่งพร้อม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง Zanroo คุณอุดมศักดิ์ ดอนขำไพร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี และคุณวรวิสุทธิ์ ภิญโญยาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท Shift Ventures (ซ้ายสุด)

คุณอุดมศักดิ์ ดอนขำไพร CTO และหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Zanroo กล่าวว่า “เพื่อนำพา Zanroo สู่ระดับโลก เราได้คิดค้นนวัตกรรมหนึ่งเดียวในโลกภายใต้ชื่อ “อรุณ” (Arun) ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากชื่อของวัดอรุณราชวรารามเพื่อสื่อความหมายถึงความเป็นไทย”

“ความโดดเด่นของ Arun คือการออกแบบให้ทำงานได้อย่างรวดเร็ว และสามารถประมวลผลข้อมูลมหาศาลจากทั้ง Paid Media, Own Media และ Earned Media รวมกันได้ภายในตัวเดียว ส่งผลให้สามารถวัดผลตอบแทนในการลงทุน (Return on Investment) ในโลกดิจิทัลได้เป็นครั้งแรก”

ทั้งนี้ Zanroo ตั้งเป้าว่า ศักยภาพของ Arun จะเป็น Game Changer ในการทำการตลาดของแบรนด์ต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งจะมีผลทำให้รายได้ของ Zanroo ทะลุ 260 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้ และการตั้งเป้าขยายตลาดไปยัง 40 ประเทศทั่วโลกภายในปี พ.ศ. 2562 ก็จะทำให้บริษัทมียอดรายได้แตะที่ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1,000 ล้านบาทในที่สุดด้วย

แต่นั่นไม่ใช่จุดสูงสุดของสองผู้ก่อตั้ง เพราะ Zanroo ตั้งเป้าจะเป็นแบรนด์แรกของไทยที่ขึ้นเป็น Unicorn (ธุรกิจสตาร์ทอัปที่มีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ) รวมถึงติด 1 ใน 10 บริษัท MarTech ระดับโลกด้วยนั่นเอง ซึ่งในจุดนี้ คุณชิตพลได้ให้ทัศนะถึงสองตลาดยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาและจีนว่า ตลาดสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดที่ใหญ่มาก แต่ความท้าทายคือตลาดอเมริกาเป็นตลาดที่ Mature แล้วระดับหนึ่ง ดังนั้นการจะบุกเข้าไปนั้นต้องมีโปรดักซ์ใหม่ที่เจ๋งจริง ๆ จึงจะค่อยบุก ขณะที่ตลาดจีนนั้นเป็นตลาดที่ธุรกิจทั่วไปทราบกันดีว่าบุกยาก แต่ล่าสุด Zanroo มีพาร์ทเนอร์แล้ว และคาดว่าจะพร้อมบุกตลาดทั้งสองประเทศนี้ในช่วงสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน โดยโปรดักซ์ที่ Zanroo จะพาไปบุกตลาดจีนและสหรัฐอเมริกาก็คือ Arun เวอร์ชันเต็ม ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาในขณะนี้นั่นเอง