Pop Mart Funko

สั่นสะเทือนวงการของสะสมทั่วโลก! เพราะ Funko ยักษ์ใหญ่ผู้สร้างอาณาจักร Pop! กำลังเผชิญวิกฤตถึงขั้น “อาจไม่รอด” ถึงขนาด Funko ยอมรับเองในรายงานต่อนักลงทุน ว่าบริษัทมี “ข้อสงสัยอย่างมีนัยสำคัญเกี่ยวกับความสามารถในการดำเนินงานต่อเนื่องในอีก 12 เดือนข้างหน้า”

หรือนี่อาจเป็น “จุดจบของยุคสมัย” อย่างแท้จริง

นี่คือราชาที่เคยครองตลาดอย่างเบ็ดเสร็จ แต่กำลังถูกโค่นล้มไม่ใช่เพราะ “เศรษฐกิจ” อย่างที่บริษัทกล่าวอ้าง แต่เพราะ “โมเดลธุรกิจ” ที่ล้าสมัยกำลังถูก “โมเดลธุรกิจ” ที่เหนือกว่าของ Pop Mart ขยี้จนไม่เหลือชิ้นดี

วันนี้ Thumbsup จะพาไปวิเคราะห์สงครามครั้งนี้แบบหมัดต่อหมัด เจาะลึกว่าทำไม Funko ถึงกำลังล่มสลาย และ Pop Mart ใช้กลยุทธ์อะไรถึงได้เติบโตอย่างบ้าคลั่งในสมรภูมิเดียวกัน

Pop Mart Funko

Funko องค์ราชาที่กำลังล่มสลาย

ตัวเลขผลประกอบการ Q3 2025 ของ Funko คือฝันร้ายของนักลงทุน

  • รายได้สุทธิดิ่ง 14.3% เหลือ 250.9 ล้านดอลลาร์
  • ขาดทุนสุทธิประมาณ 0.9 ล้านดอลลาร์ (เทียบกับกำไร 4.6 ล้านดอลลาร์ในปีก่อน)
  • ตลาดบ้านเกิด (สหรัฐอเมริกา) ซึ่งเป็นหัวใจหลัก หดตัวถึง 20.1%
  • ผลิตภัณฑ์หลัก (Core Collectibles) หรือฟิกเกอร์ Pop! ที่เราคุ้นเคย ก็ลดลง 12.0%

Funko โทษว่าเป็นเพราะ “สภาพแวดล้อมการค้าปลีกที่ยากลำบาก”, ภาษีที่สูงขึ้น และการที่ร้านค้าพยายามลดสต็อก แต่ปัญหาที่แท้จริงมันลึกกว่านั้น สื่อต่างประเทศชี้ว่ามันเกิดจาก “การผลิตล้นตลาด” และ “ความสนใจของผู้บริโภคที่ลดน้อยลง”

จุดตายที่แท้จริงคือ “สถานะทางการเงิน” ในรายงานระบุว่าบริษัทมีหนี้สินรวมเกือบ 250 ล้านดอลลาร์ และกำลังเสี่ยงที่จะ “ละเมิดข้อตกลงเงินกู้” ซึ่งอาจนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้ นี่คือเหตุผลของคำเตือน “อาจไม่รอด” ที่น่าขนลุก

ตอนนี้ Funko กำลังดิ้นรน โดยหันไปโฟกัสกับของชิ้นเล็กอย่าง Bitty Pops และมองหา “ทางเลือกเชิงกลยุทธ์” ซึ่งรวมถึง “การขายกิจการ” เรียกว่าจากอาณาจักรพันล้าน สู่การดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด

Pop Mart กับการเติบโตที่ฉุดไม่อยู่

ในขณะที่ Funko กำลังจมดิ่ง Pop Mart กลับกำลังเหยียบคันเร่งจนมิด รายงานผลประกอบการของพวกเขาคือภาพที่ “ตรงข้าม” กันอย่างสิ้นเชิง

  • อัปเดต Q3 2025 (เทียบกับ Q3 2024): รายได้รวมโตระเบิด 245%-250%
  • รายได้ในจีน (PRC) โต 185%-190%
  • รายได้นอกจีน (Overseas) โตบ้าคลั่ง 365%-370%

ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นว่า “สภาพแวดล้อมการค้าปลีก” ไม่ได้ยากลำบากสำหรับทุกคน และเมื่อเราเจาะลึก “รายงานครึ่งปีแรก 2025” (H1 2025) เราจะเห็นว่า Pop Mart กำลัง “บุกถล่ม” ฐานที่มั่นของ Funko อย่างไร้ความปรานี

  • รายได้ในอเมริกา (H1) เติบโต +1,142.3%
  • รายได้ในยุโรปและอื่นๆ (H1) เติบโต +729.2%
  • รายได้รวม (H1) พุ่ง 204.4% แตะ 13,876.3 ล้านหยวน
  • กำไรสุทธิ (H1, Non-IFRS) พุ่ง 362.8%

นี่ไม่ใช่การเติบโต นี่คือ “การแทนที่” ที่กำลังเกิดขึ้นจริง และมันเกิดขึ้นเพราะ 3 กลยุทธ์หลักที่ Pop Mart ทำได้ดีกว่า Funko ในทุกมิติ

3 หมัดน็อกที่ Pop Mart ใช้โค่นบัลลังก์ Funko

หมัดที่ 1: “ผู้สร้าง IP” (Creator) vs “ผู้ยืม IP” (Licensee)

นี่คือความแตกต่างที่กำหนดผู้ชนะ Funko คือ “แพลตฟอร์มสำหรับ IP ที่มีอยู่แล้ว” (Licensed Model) ธุรกิจของพวกเขาคือการไล่ล่าใบอนุญาต (License) ของทุกสิ่งที่กำลังดัง ไม่ว่าจะเป็น Marvel, Disney หรือ Harry Potter พวกเขาคือ Culture Distributor ที่ต้องรอให้คนอื่นสร้างกระแส แล้วตัวเองค่อยไปเกาะ

ในทางกลับกัน Pop Mart คือ “โรงงานสร้าง IP ใหม่” (Artist-Driven Model)

  • รายได้ของ Pop Mart มาจาก “Artist IPs” (IP ที่สร้างเอง) สูงถึง 88.1% ในครึ่งปีแรก
  • พระเอกที่แท้จริงคือ THE MONSTERS (ตระกูล Labubu) ที่รายได้เติบโตมหาศาล +668.0%
  • และนี่คือ Killer Stat: รายได้จาก IP ตระกูล Labubu เพียงตระกูลเดียว ใน 6 เดือน (4,814.0 ล้านหยวน หรือประมาณ 660 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) มากกว่ารายได้รวมทั้งไตรมาสของ Funko (250.9 ล้านดอลลาร์) เกิน 2.5 เท่า!

Pop Mart ไม่ต้องไล่ตามวัฒนธรรม พวกเขา “สร้าง” วัฒนธรรมของตัวเอง ทำให้มี Brand Loyalty ที่สูงกว่า และมีอัตรากำไรที่ดีกว่าเพราะไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์มหาศาล

หมัดที่ 2: “การปฏิวัติผลิตภัณฑ์” (Plush) vs “การอิ่มตัว” (Vinyl)

Funko กำลังตายเพราะความอิ่มตัวของผลิตภัณฑ์หลัก ตลาดเต็มไปด้วย Pop! Vinyl จนผู้บริโภคเริ่ม “เบื่อ” ตอนนี้พวกเขาทำได้แค่หดขนาดมันลงเป็น Bitty Pops

แต่ Pop Mart พิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาคือ “นักปฏิวัติผลิตภัณฑ์”

  • ในครึ่งปีแรก 2025, “ผลิตภัณฑ์ตุ๊กตาผ้า (Plush toys)” ได้กลายเป็นหมวดหมู่ที่ใหญ่ที่สุดของ Pop Mart
  • รายได้จากตุ๊กตาผ้า เติบโตระเบิด +1,276.2%
  • สัดส่วนรายได้จากตุ๊กตาผ้า คิดเป็น 44.2% ของรายได้ทั้งหมด (แซงหน้าฟิกเกอร์กล่องสุ่มที่ 37.3%)

Pop Mart ใช้ IP ที่แข็งแกร่งอย่าง Labubu ต่อยอดไปยังตุ๊กตาผ้าขนฟู สร้าง “ปรากฏการณ์” ครั้งใหม่ นี่คือความเฉียบแหลมในการต่อยอด IP ที่ Funko ทำไม่ได้

หมัดที่ 3: “การควบคุม Ecosystem” (DTC) vs “การพึ่งพาร้านค้า” (Wholesale)

Funko ยังคงใช้โมเดลเก่า คือการพึ่งพาช่องทางค้าส่ง (Wholesale) และร้านค้าปลีกอย่าง Walmart หรือ Target พวกเขาเป็นแค่ “สินค้า” บนชั้นวางของคนอื่น ทำให้ไม่มีข้อมูลลูกค้า และไม่มีความสัมพันธ์โดยตรง (Direct Relationship)

Pop Mart สร้าง “อาณาจักร” ของตัวเองผ่านโมเดล Direct-to-Consumer (DTC) ที่สมบูรณ์แบบ

  • มีร้านค้าปลีกของตัวเอง 571 แห่งทั่วโลก
  • มีตู้จำหน่ายอัตโนมัติ “Roboshops” ถึง 2,597 ตู้

ช่องทาง DTC เหล่านี้ไม่ได้มีไว้แค่ “ขาย” แต่มีไว้ “สร้างความสัมพันธ์” และ “เก็บข้อมูล” ซึ่งนำไปสู่อาวุธลับสุดยอด

  • ระบบสมาชิก (Membership): ในจีนแผ่นดินใหญ่ Pop Mart มีสมาชิกที่ลงทะเบียน 59.12 ล้านคน
  • ที่สำคัญคือ ยอดขาย 91.2% มาจากสมาชิกเหล่านี้
  • สมาชิกมีอัตราการซื้อซ้ำ (Repeat purchase rate) สูงถึง 50.8%

นี่คือ “ป้อมปราการ” ที่ Funko ไม่มีวันเจาะเข้าได้ Pop Mart เป็นเจ้าของลูกค้าตั้งแต่ต้นจนจบ ในขณะที่ Funko ยังคงเป็นแค่ “ซัพพลายเออร์”

Thumbsup มองว่า ประโยค “Funko อาจไม่รอด” แม้จะฟังดูรุนแรง แต่ก็ตั้งอยู่บนความเป็นจริงที่โหดร้าย วิกฤตของ Funko ไม่ใช่แค่เรื่องการเงิน แต่เป็น “วิกฤตเชิงกลยุทธ์”

Funko คือ “ผู้จัดจำหน่ายวัฒนธรรม” (Culture Distributor) ในยุคที่โมเดลนี้ใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป พวกเขากำลังถูก “ผู้สร้างวัฒนธรรม” (Culture Creator) อย่าง Pop Mart สังหารอย่างเลือดเย็น

Pop Mart สร้างโมเดลที่เหนือกว่าในทุกด้าน พวกเขาเป็นเจ้าของ IP, พวกเขาเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย (โดยเฉพาะ Plush ที่มาถูกเวลา) และพวกเขาเป็นเจ้าของความสัมพันธ์กับลูกค้า (DTC & Membership)

คำเตือน “Going Concern” ของ Funko จึงไม่ใช่แค่เชิงเทคนิคทางบัญชี แต่มันคือ “เสียงระฆัง” ที่บ่งบอกว่ายุคสมัยของราชาหัวโตสี่เหลี่ยมได้จบลงแล้ว และผู้ชนะคนใหม่ที่ชื่อ Pop Mart ก็ไม่ได้กำลังมา แต่พวกเขา “มาถึง” และยึดครองบัลลังก์นี้ไปแล้ว

อ้างอิง: Funko 1, 2, Pop Mart 1, 2

I'm a Content Creator and Storyteller, and i love Shooting my daughter :><: