10320611_941985335834303_1080606343552071189_n

ใครที่ติดตามข่าวเรื่องน้ำท่วมในช่วงปีที่ผ่านมา เราก็จะเห็นความสนุกในการแต่งภาพจากเหตุการณ์น้ำท่วม ซึ่งเป็นข่าวโด่งดังในหลายประเทศ และเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2558 มีฝนตกหนักจนทำให้น้ำขังและท่วมในบางพื้นที่ แต่มีภาพนึงที่ถูกเอามาแชร์บนโลกโซเชียลก็คือรูปด้านบน นั่นคือรูปชั้นวางของในห้าง Tops Supermarket สาขาสุขุมวิท (ภาพจากกระทู้คุณ Jalor บน Pantip.com)

สิ่งที่คนออนไลน์กลุ่มหนึ่งทำขึ้นมาเมื่อเห็นภาพนี้ก็คือการนำภาพมาตัดต่อแล้วทำให้ดูสนุก, ตลกขึ้นจากไอเดียแหวกแนว ซึ่งที่ได้เห็นจากการทำก็พบได้ว่ามีคนมาร่วมทำอย่างต่อเนื่องจนถึงตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเอาคนดังๆ ของไทย ไม่ว่าจะในรัฐบาล, ผู้ว่ากทม. หรือเป็นตัวการ์ตูน มาประกอบในภาพจนกลายเป็น Internet Meme เรียกได้ว่ามันคือ เป็น crowdsourcing ที่เกิดจากการ Viral หรือปากต่อปากโดยแท้

อันนี้เป็นตัวอย่างครับ ดูทั้งหมดได้ที่ Pantip.com

1427192792-elsa-o

ภาพโดย 840740

ภาพจาก Vivid Pastel

ภาพโดย Vivid Pastel

ในมุมของคนทำและคนได้เห็นอาจจะสนุกและตลกที่ได้เห็น แต่ในมุมของเจ้าของสถานที่นั้นคงไม่สนุกแน่ เพราะมันคือสิ่งที่เสียหายในด้านทรัพย์สิน แถมยังไม่ถูกพูดถึงชื่อด้วยว่าที่ไหน ซึ่งก็เป็น Crisis อย่างหนึ่งทั้งสองโลก ออนไลน์ และ ออฟไลน์

แต่หลังจากมีกระแสของการตัดต่อภาพไม่นาน Page Tops Thailand เจ้าของ Top Supermarket ก็ได้ทำการโพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพเพื่อเข้ามาจัดการกระแสนี้ ด้วยภาพนี้…

Screen Shot 2015-03-25 at 1.10.24 PM

สิ่งที่ได้ตอบกลับมาก็คือ comment ในทางที่ดีด้านบวก ที่ให้ด้านการให้กำลังใจ รวมทั้งมีการส่งการแชร์ต่อที่มีการส่งไปเรื่อยๆ

Screen Shot 2015-03-25 at 1.12.56 PM

อย่างที่บอกไปว่า นี่คือการเกาะกระแสอย่างดี และเป็นการแก้เกมที่เกิดจากกระแสที่จะได้รับความเสียหายมาก แต่แบรนด์กลับไม่ได้พูดถึงมากนัก ซึ่งแบรนด์ก็เลือกที่จะกระโดดลงมาเกาะเองด้วยการใช้ Content พร้อมกับ message ที่เป็น real-time ให้เข้ากับสถานการณ์ที่ทำได้ดีมากๆ

แล้วถ้าเป็นคุณล่ะครับ เมื่อเจอสถานการณ์นี้ คุณจะทำอย่างไรบ้างครับ?

bank - full-time reader, part-time invisible writer, Fanpantae GDH