Site icon Thumbsup

YouTube Shorts Fund ขยายเพิ่มอีก 30 กว่าประเทศ 
พร้อมแนะเทคนิคสร้างรายได้ให้ครีเอเตอร์ไทยด้วย 10 วิธีนี้

YouTube ได้ประกาศขยาย YouTube Shorts Fund หรือเงินสนับสนุนของ YouTube Shorts ไปยังประเทศต่างๆ อีกกว่า 30 ประเทศทั่วโลกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย ถือว่าเป็นโอกาสดีของเหล่าครีเอเตอร์ที่จะเบนเข็มสู่ด้านนี้โดยตรงและพร้อมทำธุรกิจด้านคอนเทนต์เต็มที่ พร้อมนำเสนอเทคนิคที่เหล่าครีเอเตอร์สามารถนำไปปรับใช้เพื่อเพิ่มโอกาสการเป็นครีเอเตอร์ชื่อดังของไทย

Robert Kyncl, Chief Business Officer, YouTube กล่าวว่า “สิ่งหนึ่งที่ผมชื่นชมมากที่สุดเกี่ยวกับครีเอเตอร์คือความสามารถและทักษะอันน่าทึ่งของพวกเขา ที่เป็นทั้งนักเล่าเรื่อง ผู้กำกับ บรรณาธิการ นักการตลาด และผู้ประกอบการ และเพื่อให้ครีเอเตอร์เหล่านี้ได้เข้าถึงโอกาสในการต่อยอดสู่ความสำเร็จ YouTube จึงได้พัฒนาจากการเป็นเพียงแพลตฟอร์มสำหรับอัปโหลดและแชร์วิดีโอไปสู่การเป็นสถานที่ที่ครีเอเตอร์สามารถค้นหาฐานผู้ชมใหม่ๆ เชื่อมต่อกับแฟนๆ ในรูปแบบต่างๆ และต่อยอดธุรกิจที่กำลังเติบโต”

โดย YouTube ได้วางรากฐานสำหรับเศรษฐกิจสร้างสรรค์แบบใหม่ไว้เมื่อ 14 ปีที่แล้วด้วยการเปิดตัวโปรแกรมพาร์ทเนอร์ YouTube (YPP) ซึ่งเป็นโมเดลธุรกิจรูปแบบใหม่ในเวลานั้นที่มีการแบ่งรายได้ส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นบน YouTube ให้กับครีเอเตอร์ ในช่วงเวลาเพียง 3 ปีที่ผ่านมา YouTube ได้จ่ายเงินไปกว่า 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐให้แก่ครีเอเตอร์ ศิลปิน และบริษัทสื่อต่างๆ และในไตรมาส 2 ของปีนี้  YouTube ได้จ่ายเงินให้แก่ครีเอเตอร์และพาร์ทเนอร์มากกว่าไตรมาสใดๆ ในประวัติศาสตร์

ในระหว่างนี้ YouTube ยังคงเดินหน้าพัฒนาวิธีสร้างรายได้แบบใหม่ๆ สำหรับครีเอเตอร์นอกเหนือจากการโฆษณา ซึ่งรวมถึงสินค้าดิจิทัลแบบชำระเงิน สินค้า เนื้อหาที่มีแบรนด์ และอื่นๆ อีกมากมาย เป้าหมายร่วมกันของ YouTube กับครีเอเตอร์คือการช่วยให้พวกเขาสร้างโมเดลธุรกิจที่แข็งแกร่งและหลากหลายที่ได้ผลทั้งในส่วนของเนื้อหาที่เป็นเอกลักษณ์และส่วนของกลุ่มผู้ชม

ปัจจุบัน YouTube มีวิธีสร้างรายได้สำหรับครีเอเตอร์และศิลปินถึง 10 วิธีด้วยกัน ซึ่งได้แก่

เงินสนับสนุนของ YouTube Shorts

มูลค่าของเงินสนับสนุนที่ YouTube Shorts มอบให้มีมูลค่าอยู่ที่ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยได้รับการจัดสรรสำหรับการสนับสนุนครีเอเตอร์ในช่วงปี 2021-2022 ทาง YouTube จะติดต่อครีเอเตอร์หลายพันคนในแต่ละเดือน เพื่อแจ้งให้ทราบว่าครีเอเตอร์รายนั้นๆ มีสิทธิ์รับเงินสนับสนุนของ YouTube Shorts ทั้งนี้ ครีเอเตอร์ที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์จะได้รับเงินสนับสนุนจำนวน 100 – 10,000 เหรียญสหรัฐ ซึ่งจะพิจารณาจากยอดผู้ชมและการมีส่วนร่วมในวิดีโอ Shorts ของพวกเขา

ทั้งนี้ เงินสนับสนุนของ Shorts ถือเป็นก้าวแรกในการสร้างโมเดลการสร้างรายได้สำหรับการทำวิดีโอ Shorts บน YouTube และไม่จำกัดเพียงครีเอเตอร์ที่อยู่ในโปรแกรมพาร์ทเนอร์ YouTube (YPP) เท่านั้น โดยครีเอเตอร์ที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่กำหนดก็สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้เช่นกัน

นอกจากนี้ YouTube ยังมอบเงินสนับสนุนผ่านทาง Black Voices Fund และ Kids Fund อีกด้วย

โฆษณา

โฆษณาถือเป็นแหล่งรายได้หลักของครีเอเตอร์ และยังคงเป็นช่องทางหลักในการสร้างรายได้บน YouTube ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่ที่ครีเอเตอร์ได้รับมาจากโฆษณาบน YouTube

YouTube Premium

YouTube Premium เป็นการสมัครใช้บริการแบบชำระเงินที่ให้สมาชิกรับชมวิดีโอบน YouTube ได้แบบไม่มีโฆษณาคั่น เล่นขณะล็อกหน้าจอหรือขณะใช้แอปอื่น ดาวน์โหลดวิดีโอ และเข้าถึง YouTube Music Premium ได้ โดยรายได้จากการติดตามส่วนใหญ่จะเป็นของพันธมิตร YouTube

การเป็นสมาชิกของช่อง

ครีเอเตอร์สามารถใช้การเป็นสมาชิกของช่องเพื่อมอบสิทธิพิเศษและเนื้อหาแบบเอ็กซ์คลูซีฟให้กับผู้ชมที่สมัครเป็นสมาชิกของช่องแบบชำระเงินรายเดือนในราคาที่ครีเอเตอร์เป็นผู้กำหนดเอง

ฟีเจอร์ Super Chat

แฟนๆ ที่รับชมการสตรีมแบบสดและวิดีโอพรีเมียร์สามารถซื้อ Super Chat ซึ่งเป็นข้อความที่จะถูกไฮไลต์ในแชทของสตรีมแบบสดซึ่งจะโดดเด่นกว่าคนอื่นๆ เพื่อให้ได้รับความสนใจจากครีเอเตอร์คนโปรดมากยิ่งขึ้น

ฟีเจอร์ Super Thanks

ตอนนี้ผู้ชมสามารถแสดงความชื่นชมและขอบคุณครีเอเตอร์สำหรับวิดีโอที่อัปโหลดผ่านทาง Super Thanks ได้แล้ว โดยผู้ที่ซื้อ Super Thanks จะได้รับความคิดเห็นสีสันสดใสอันโดดเด่นเป็นโบนัสในส่วนความคิดเห็นของวิดีโอ ซึ่งครีเอเตอร์สามารถเข้ามาตอบกลับได้

ฟีเจอร์ Super Stickers

Super Stickers เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่แฟนๆ สามารถแสดงการสนับสนุนครีเอเตอร์ในระหว่างการสตรีมแบบสดและวิดีโอพรีเมียร์ โดยแฟนๆ สามารถซื้อสติกเกอร์ที่โดดเด่นเพื่อส่งให้กับครีเอเตอร์ที่ตนชื่นชอบผ่านทางแชทได้

ฟีเจอร์สินค้า

ชั้นวางสินค้าช่วยให้ช่องต่างๆ แสดงสินค้าที่มีแบรนด์อย่างเป็นทางการของตนเองบน YouTube ได้ โดยมีผู้ค้าปลีก 30 รายทั่วโลกให้ครีเอเตอร์เลือก

ฟีเจอร์การจำหน่ายตั๋ว

ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้แฟนเพลงทราบข้อมูลเกี่ยวกับคอนเสิร์ตที่กำลังจะจัดขึ้น และซื้อตั๋วได้ง่ายๆ เพียงเข้าไปที่เว็บไซต์ของพาร์ทเนอร์ผู้จำหน่ายตั๋วโดยตรง

YouTube BrandConnect

YouTube BrandConnect (มีชื่อเรียกเดิมว่า FameBit) ช่วยให้ครีเอเตอร์และแบรนด์สร้างเนื้อหาที่มีแบรนด์ได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ YouTube BrandConnect นำเสนอข้อมูลเชิงลึก การวัดผล และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมที่เป็นประโยชน์สำหรับการวางแผนกลยุทธ์การตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ เพื่อเชื่อมโยงแบรนด์ ครีเอเตอร์ และผู้ชมเข้าด้วยกัน

อันนี้ต้องบอกก่อนว่า ข้อแนะนำทั้ง 10 อัน ให้เลือกใช้ในบริบทที่เหมาะสม หรือประเภทของคอนเทนต์ที่คุณจะนำเสนอนะคะ ไม่ใช่ใส่ไปทีเดียวทั้งหมดในแชนแนลเดียว เลือกปรับในสไตล์ที่ใช่คุณดีกว่านะคะ