ถ้าพูดถึงแบรนด์กีฬาไทยที่อยู่คู่สนามมาอย่างยาวนาน ชื่อของ แกรนด์สปอร์ต หรือ Grand Sport คงเป็น Top of Mind ของใครหลายคน แต่ในยุคที่โลกหมุนเร็วกว่าลูกฟุตบอล และพฤติกรรมผู้บริโภคซับซ้อนกว่ากติกาออฟไซด์ การยืนระยะในฐานะหนึ่งในผู้นำตลาดอาจไม่เพียงพออีกต่อไป
วันนี้ Thumbsup จะพาไปเจาะลึกทิศทางธุรกิจของ บริษัท แกรนด์สปอร์ต กรุ๊ป จำกัด ที่กำลังก้าวเข้าสู่ปี 2026 ปีที่พวกเขาไม่ได้มองแค่การขายเสื้อผ้า แต่กำลังมองหา New S-Curve ท่ามกลางสมรภูมิตลาดอุปกรณ์กีฬาไทยที่คาดว่าจะมีมูลค่ากว่า 35,000 ล้านบาท พร้อมผ่าข้อมูลงบการเงินย้อนหลัง กับ ธัชพล ศรีชาญกิจ รองกรรมการผู้จัดการ แกรนด์สปอร์ต กรุ๊ป ที่ฉายภาพให้เห็นว่า แกรนด์สปอร์ต กำลังกลับมาเอาจริง
![]()
ปักธงรบใหม่ ในวันที่ “สปอร์ต” ผนวก “ไลฟ์สไตล์”
เปิดหัวด้วยภาพใหญ่ของปี 2026 ที่กำลังจะมาถึง เทรนด์โลกและไทยชี้ชัดไปในทิศทางเดียวกันครับว่า Health & Wellness ยังคงเป็นเมกะเทรนด์ที่ฆ่าไม่ตาย ข้อมูลจากศูนย์วิจัยหลายแห่งมองว่าตลาดอุปกรณ์กีฬาในไทยยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่ม Sports Fashion ที่เสื้อกีฬาถูกหยิบมาใส่เดินห้างฯ มากกว่าใส่วิ่งในสนาม
สำหรับแกรนด์สปอร์ต ปี 2026 จะเป็นปีแห่งการ เร่งเครื่องนวัตกรรม เพราะ ธัชพล ระบุชัดเจนว่า นวัตกรรมไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางรอด โดยแกรนด์สปอร์ตวางงบลงทุนด้าน R&D ไว้ขั้นต่ำที่ 2% ของยอดขาย ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ไม่น้อยสำหรับธุรกิจเสื้อผ้า
เป้าหมายคือการสร้าง New S-Curve เพราะโมเดลเดิมที่พึ่งพาการเป็นสปอนเซอร์ทีมกีฬาเริ่มเจอความท้าทายจากต้นทุนที่สูงขึ้น ทั้งค่าตัวนักกีฬาและการทำการตลาด ทำให้แบรนด์ต้องมองหาโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ และการนำเสนอสินค้าที่มี Storytelling มากขึ้น อย่างที่เราเห็นการสอดแทรก Soft Power ผ่านลวดลายสถาปัตยกรรมไทย หรือการใช้วัสดุรีไซเคิลในชุดซีเกมส์ล่าสุด เป็นต้น

สตาร์ทเครื่องช้า แต่เร่งแซงทางโค้ง
ก่อนจะไปถึงอนาคต เรามาดูผลงานในปี 2025 ที่ผ่านมากันก่อน จากสถานการณ์จริงที่คุณธัชพลเล่าให้ฟัง ปีนี้ถือเป็นปีที่ ต้นร้าย ปลายดี
- ครึ่งปีแรก (Q1-Q2): ตลาดซบเซาอย่างเห็นได้ชัด กำลังซื้อชะลอตัวตามสภาพเศรษฐกิจ
- ครึ่งปีหลัง (Q3-Q4): กราฟเริ่มตีหัวขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายที่ธุรกิจเริ่มกลับมาคึกคัก รับอานิสงส์จากอีเวนต์กีฬาและเทศกาลปีใหม่
โดยภาพรวม แกรนด์สปอร์ตคาดการณ์ว่าจะปิดปี 2568 ด้วยตัวเลขรายได้ ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว หรืออยู่ที่ประมาณ เกือบ 900 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการรักษาระดับได้ดีท่ามกลางพายุเศรษฐกิจ
โครงสร้างรายได้ปี 2568:
- 70%: มาจากกลุ่มเสื้อผ้า (Apparel) ซึ่งยังคงเป็นเส้นเลือดใหญ่ของบริษัท
- 30%: มาจากอุปกรณ์กีฬา (Equipment)

ตัวเลขไม่โกหก กำไรที่ซ่อนอยู่ในความนิ่ง
Thumbsup ได้ลองกางงบการเงินย้อนหลัง 5 ปี (2022-2024) จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า มาวิเคราะห์ให้เห็นไส้ในที่น่าสนใจ
- 2024 รายได้ 873,731,539 บาท กำไรสุทธิ 51,205,234 บาท
- 2023 รายได้ 875,617,724 บาท กำไรสุทธิ 30,162,165 บาท
- 2022 รายได้ 927,313,536 บาท กำไรสุทธิ 50,794,978 บาท
ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า
- Revenue Resilience: แม้ปี 2024 รายได้จะลดลงเล็กน้อยจากปี 2023 (ประมาณ -0.21%) แต่ยังยืนเหนือระดับ 870 ล้านบาทได้อย่างแข็งแกร่ง แสดงถึงฐานลูกค้าที่เหนียวแน่น
- Profit Optimization: ความสามารถในการทำกำไร ปี 2024 แม้รายได้จะทรงตัว แต่กำไรสุทธิกลับพุ่งขึ้นมาแตะ 51 ล้านบาท (โตขึ้นเกือบ 70% จากปี 2566) สะท้อนให้เห็นว่าแกรนด์สปอร์ตมีการบริหารจัดการต้นทุนได้ดีขึ้น
- Financial Health: จากงบแสดงฐานะการเงิน สินทรัพย์รวมเติบโตขึ้นต่อเนื่องแตะ 678 ล้านบาท ในปี 2024 ในขณะที่หนี้สินรวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแต่ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้
เมื่อ “สปอนเซอร์” ไม่ใช่คำตอบเดียว
หนึ่งในประเด็นที่คุณธัชพลเน้นย้ำคือ ความยากในการทำ Sports Marketing ผ่าน Sponsorship
ในอดีต การแปะโลโก้บนอกเสื้อทีมสโมสรหรือทีมชาติอาจการันตีการมองเห็น แต่ปัจจุบัน ต้นทุนความสำเร็จ สูงขึ้นมาก สโมสรต้องใช้เงินมหาศาลดึงตัวนักกีฬา การทำการตลาดก็แพงขึ้น ส่งผลให้เม็ดเงินที่แบรนด์เสื้อผ้าต้องจ่ายเพื่อเป็นสปอนเซอร์ก็เฟ้อตามไปด้วย
ทางออกของแกรนด์สปอร์ตไม่ใช่การถอย แต่คือการ เลือกเล่น และ เพิ่มมูลค่า
- Focus on Impact: เลือกสนับสนุนอีเวนต์ที่มี Impact จริง ๆ อย่างปีหน้าที่มี ฟุตบอลโลก แต่ยังมี เอเชียนเกมส์ และการแข่งขัน วอลเลย์บอล ซึ่งเป็น Hero Product ของแกรนด์สปอร์ตที่ครองใจคนไทยมาตลอด
- Innovation & Storytelling: ตัวอย่างชัดเจนคือชุดซีเกมส์ที่ผ่านมา ที่มีการดึงเอา สถาปัตยกรรมไทย มาเป็นลวดลาย และใช้ เส้นใยรีไซเคิลจากขวดพลาสติก สิ่งนี้ไม่ได้แค่ขายเสื้อ แต่ขาย ความภูมิใจ และ ความรักษ์โลก ซึ่งโดนใจ Gen Z และผู้บริโภคยุคใหม่
Thumbsup มองว่า แกรนด์สปอร์ตกำลังอยู่ในช่วง Transformation ที่น่าจับตามอง จากแบรนด์ที่เน้นขาย Functional (เสื้อใส่เล่นกีฬา) กำลังขยับไปสู่ Emotional & Innovation (เสื้อที่ใส่แล้วภูมิใจและรักษ์โลก)
ปี 2025 อาจเป็นปีแห่งการประคองตัวและปรับฐาน แต่ปี 2026 จะเป็นปีที่แกรนด์สปอร์ตต้องพิสูจน์ว่า New S-Curve ที่พวกเขามองหานั้นคืออะไร จะเป็นบริการด้านกีฬาครบวงจร? หรือการบุกตลาด Lifestyle Fashion เต็มตัว?
แต่สิ่งหนึ่งที่ยืนยันได้คือ รากฐานทางการเงินที่แข็งแกร่ง และ Mindset ผู้บริหารที่ให้ความสำคัญกับ R&D คือแต้มต่อสำคัญที่จะทำให้แบรนด์ไทยแบรนด์นี้ ยังคงวิ่งอยู่ในลู่วิ่งธุรกิจกีฬาได้อย่างสง่างาม ไม่แพ้แบรนด์อินเตอร์แน่นอน
แล้วคุณล่ะ… คิดว่าแบรนด์ไทยจะสู้ศึกนี้ด้วยไม้ตายไหนได้อีกบ้าง?
อ่านเพิ่มเติม


