Slop

ถ้าใครรู้สึกว่าปี 2025 เป็นปีที่ยุ่งเหยิงและเต็มไปด้วยความ อิหยังวะ บนหน้าฟีดโซเชียลมีเดีย บอกเลยว่าคุณไม่ได้คิดไปเองคนเดียว เพราะแม้แต่ The Economist นิตยสารเศรษฐกิจระดับโลกยังเลือกคำศัพท์ประจำปี (Word of the Year) ที่สะท้อนความรู้สึกกระอักกระอ่วนนี้ออกมาได้อย่างเจ็บแสบที่สุด นั่นคือคำว่า Slop

การเฟ้นหาคำศัพท์แห่งปีไม่ใช่เรื่องง่าย ในอดีตเราเคยเห็นคำแปลก ๆ อย่าง Goblin mode หรือ Youthquake จาก Oxford English Dictionary ที่ทำเอาหลายคนเกาหัว แต่สำหรับปี 2025 นี้ The Economist เลือกคำที่ไม่ได้เป็นศัพท์ใหม่แกะกล่อง แต่เป็นคำเก่าแก่ที่ถูกนำมาชุบชีวิตใหม่ด้วยความหมายที่เสียดแทงใจดำคนทำงานสายดิจิทัลและคอนเทนต์อย่างพวกเราที่สุด

วันนี้ Thumbsup จะพาไปเจาะลึกว่าทำไม Slop ถึงกลายเป็นตัวแทนของยุคสมัย และในฐานะนักการตลาดที่ต้องว่ายวนอยู่ใน บ่อขยะคอนเทนต์ นี้ เราจะเอาตัวรอดและสร้างความแตกต่างได้อย่างไร

Slop

กำเนิด “Slop” จากอาหารหมูสู่ขยะ AI

เดิมทีในศตวรรษที่ 15 คำว่า “Slop” หมายถึงโคลนตม หรืออาหารเหลวคุณภาพต่ำที่ใช้เลี้ยงสัตว์ (พูดง่าย ๆ คืออาหารหมู) หรือแม้แต่เศษอาหารเหลือทิ้ง แต่ในปี 2025 คำนี้ถูกนิยามใหม่ให้หมายถึง ขยะคอนเทนต์ที่สร้างโดย AI

สาเหตุหลักที่ทำให้คำนี้พุ่งทะยานขึ้นมา คือการมาถึงของ Generative AI ที่เก่งกาจขึ้นแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะหลังจาก OpenAI ปล่อย Sora แพลตฟอร์มสร้างวิดีโอจากข้อความ (Text-to-Video) โลกออนไลน์ก็เปลี่ยนไปตลอดกาล จู่ ๆ หน้าฟีดของเราก็เต็มไปด้วยคลิปวิดีโอที่ดูเหมือนจริงแต่แฝงความ ปลอม หรือบทความยาวเหยียดที่เขียนโดย AI ซึ่งจับใจความไม่ได้และไร้จิตวิญญาณ

The Economist เปรียบเทียบไว้อย่างน่าสนใจว่า ตอนนี้เรากำลังเจอ พ่อค้า Slop ที่คอยอุดตันอินเทอร์เน็ตด้วยขยะข้อมูล ลองนึกภาพคุณเสิร์ช Google หาข้อมูลสุขภาพ แต่ผลลัพธ์หน้าแรกกลับเต็มไปด้วยเว็บเพจใหม่เอี่ยมที่ใช้ AI เขียนบทความมั่ว ๆ หรือไถ Instagram แล้วเจอแต่วิดีโอคลิปปลอม ๆ ที่พากย์เสียงโดย AI ดูสิ นี่แหละคือภาวะ Slop ที่กำลังกัดกิน Digital Ecosystem ของเรา

ไม่ใช่แค่ Slop! ยังมีศัพท์อื่นที่สะท้อนความปั่นป่วนของโลก

นอกจาก Slop ที่เป็นคำหลักแล้ว ยังมีคำศัพท์อื่น ๆ ที่เข้ารอบและสะท้อนภาพรวมของเศรษฐกิจและสังคมในปี 2025 ได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งนักการตลาดควรจดไว้ในคลังศัพท์

  • Neijuan (เน่ยเจวี่ยน): ศัพท์ภาษาจีนที่แปลว่า Involution หรือการม้วนตัวเข้าข้างใน อธิบายสภาวะการแข่งขันทางธุรกิจที่ ดุเดือดเลือดพล่านแต่ไร้ผลตอบแทน ลองนึกภาพตลาด EV หรือสงครามราคาใน E-commerce ที่ทุกคนวิ่งสู้ฟัดแทบตายแต่กำไรหดหาย หรือพนักงานที่ต้องทำงานหนักขึ้นเรื่อยๆ บนลู่วิ่งที่ไม่ได้พาไปไหน
  • TACO (Trump Always Chickens Out): ศัพท์สายการเงินที่บัญญัติโดย Robert Armstrong จาก Financial Times ย่อมาจากวลีที่แซวโดนัลด์ ทรัมป์ ว่ามักจะเปิดศึกกำแพงภาษีแต่สุดท้ายก็ถอยกรูด ซึ่งสะท้อนความผันผวนของนโยบายโลกที่กระทบต่อเศรษฐกิจ
  • Brain Rot (สมองเน่า) & 67: คำแสลงของ Gen Z และ Gen Alpha โดย Dictionary.com ยกให้ 67 (อ่านว่า ซิกส์-เซเว่น) เป็นคำฮิตที่ ไม่มีความหมายตายตัว สะท้อนภาวะ Brain Rot หรือสมองฝ่อจากการเสพคอนเทนต์ขยะออนไลน์มากเกินไป

วิกฤต Slop กับความท้าทายของนักการตลาดไทย

เมื่อหันกลับมามองในบริบทของบ้านเรา ปรากฏการณ์ Slop ไม่ใช่เรื่องไกลตัว เพราะในยุคที่ใคร ๆ ก็เป็นผู้ขายได้ และผู้ทำคอนเทนต์ได้ เมื่อรวมกับเครื่องมือ AI ที่ผลิตคอนเทนต์ได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว เราจะเห็นปริมาณคอนเทนต์มหาศาลถาโถมเข้าใส่ผู้บริโภค

แต่ปริมาณไม่ได้มาพร้อมคุณภาพ เผลอ ๆ อาจจะเป็น ยาพิษ สำหรับแบรนด์ด้วยซ้ำ

  1. วิกฤตศรัทธา (Trust Crisis): เมื่อผู้บริโภคแยกไม่ออกว่าอันไหนคือของจริง อันไหนคือ Slop ที่ AI สร้างขึ้น ความเชื่อมั่นจะลดฮวบ ผู้บริโภคจะเริ่ม ระมัดระวังการใช้จ่าย และขาดความมั่นใจ แบรนด์ที่ใช้ AI ผลิตคอนเทนต์แบบมักง่าย อาจจะประหยัดต้นทุนได้ระยะสั้น แต่ในระยะยาว คุณกำลังทำลาย Brand Trust ที่สร้างมากับมือ
  2. การมองหาความจริงใจในขณะที่โลกเต็มไปด้วย Slop สิ่งที่หายากและมีค่าที่สุดคือ ความเป็นมนุษย์ เราเห็นตัวอย่างความสำเร็จของแบรนด์แฟชั่นไทยมากมายที่เติบโตได้เพราะ “ความจริงใจ” และการฟังเสียงลูกค้าจริง ๆ ไม่ใช่การใช้ AI เดาใจ สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ AI หรือ Slop content ทำไม่ได้
  3. สมรภูมิ SEO และ Social Algorithm ใหม่: Google และ Social Media Platform จะต้องปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อคัดกรอง Slop ออกจากระบบ หากคุณเป็นคนทำเว็บหรือทำคอนเทนต์ การพึ่งพา AI เขียนบทความ 100% เพื่อหวังผล SEO อาจกลายเป็นการฆ่าตัวตาย เพราะอัลกอริทึมจะฉลาดขึ้นในการจับผิดและลงโทษเนื้อหาขยะเหล่านี้

เปลี่ยนจาก Slop Merchant เป็น Human-Centric Creator

ท่ามกลางกองขยะ AI ทางออกไม่ใช่การเลิกใช้เทคโนโลยี แต่คือการใช้มันอย่างมี รสนิยม และ จริยธรรม

แนวคิด Human-Centric Marketing หรือการตลาดที่ยึดมนุษย์เป็นศูนย์กลาง จึงไม่ใช่แค่คำสวยหรู แต่เป็น Survival Kit ของปี 2025

  • เข้าใจความ “กล้า” และ “พฤติกรรม” ของผู้คน: แทนที่จะยัดเยียดคอนเทนต์ขยะ ให้หันมาวิเคราะห์พฤติกรรมมนุษย์จริ งๆ อย่างที่ Human Lab ของ สปา-ฮาคูโฮโด ได้จำแนกกลุ่มผู้บริโภคตาม “ความกล้า” (Daring Palette) ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม Gen Z ที่เป็น Change Makers หรือกลุ่ม Silver Age ที่กล้าทดลองสิ่งใหม่ การทำคอนเทนต์ที่เจาะลึกถึงจิตวิญญาณของแต่ละเจเนอเรชั่นแบบนี้ คือสิ่งที่ AI ยังเลียนแบบได้ไม่เนียน
  • Sloptimism (มองโลกในแง่ดีท่ามกลางกองขยะ): The Economist ทิ้งท้ายด้วยมุมมองที่น่าสนใจว่า ถ้าโลกเต็มไปด้วย Slop อาจเกิดผลดีในแง่กลับกัน คือ สื่อหลักที่มีความน่าเชื่อถือ จะกลับมาได้รับความนิยมมากขึ้น ผู้คนจะยอมจ่ายเงินเพื่อเสพเนื้อหาที่ผ่านการคัดกรองจากมนุษย์จริงๆ และแพลตฟอร์มต่าง ๆ จะต้องจริงจังกับการคัดกรองเนื้อหามากขึ้น

Thumbsup มองว่า ปี 2025 คำว่า Slop อาจจะเป็นคำแห่งปีในเชิงลบ แต่สำหรับนักการตลาด นี่คือสัญญาณเตือนภัยที่ดังที่สุด

  • เรากำลังเข้าสู่ยุคที่ “Less is More, and Real is Rare”
  • การใช้ AI ช่วยงานไม่ใช่เรื่องผิด แต่ถ้าคุณใช้มันเพียงเพื่อ ปั่น ปริมาณโดยไม่สนคุณภาพ คุณก็คือส่วนหนึ่งของปัญหา Slop นี้

ในทางกลับกัน ถ้าคุณสามารถผสานเทคโนโลยีเข้ากับความเข้าใจมนุษย์ และความจริงใจ คอนเทนต์ของคุณจะเปล่งประกายเหมือนเพชรในกองโคลน เพราะในยุคที่ทุกอย่างปลอมไปหมด… ความจริงคือสินทรัพย์ที่มีราคาแพงที่สุด

อ่านเพิ่มเติม

I'm a Content Creator and Storyteller, and i love Shooting my daughter :><: