Site icon Thumbsup

บริการจ่ายเงินออนไลน์เพื่อ startup “Stripe” มียอดใช้เกิน 5 แสนดอลล์ต่อวัน

stripe
ก่อนหน้านี้เราเคยเสนอข่าวความสำเร็จของ Stripe ในมุมบริการจ่ายเงินออนไลน์สไตล์ Paypal ที่เรียบง่ายและมีค่าธรรมเนียมน้อยกว่า แต่เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ดาวรุ่งในวงการชำระเงินออนไลน์อย่าง Stripe เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่เพื่อให้ชาว startup ที่มีผู้ร่วมอุดมการณ์หลายคน สามารถจ่ายเงินออนไลน์ถึงกันผ่านหลายบัญชีธนาคารได้ง่ายกว่าเดิม ปรากฏว่าบริการนี้ได้รับความนิยมมาก จนมียอดใช้จ่ายเกิน 5 แสนเหรียญสหรัฐต่อวัน หรือประมาณ 1.5 ล้านบาท

ตัวเลขยอดใช้จ่ายหลายล้านบาทต่อวันทำให้บริการใหม่ของ Stripe น่าสนใจมาก เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นแปลว่าเทคโนโลยีใหม่ของ Stripe สามารถตอบโจทย์เหล่า startup หรือบริษัทเกิดใหม่ในต่างประเทศได้ โดยเฉพาะ startup อย่างบริการเช่ารถพันธุ์ใหม่ Lyft ซึ่งจำเป็นต้องรับเงินจากหลายบัญชีของลูกค้า เพื่อจ่ายเงินให้กับเหล่าเจ้าของรถหลายหมื่นคัน รวมถึงบริการประเภท collaborative consumption startup ลักษณะเดียวกันรายอื่นที่ต้องการความสามารถในการจ่ายและรับเงินระหว่างหลายบัญชีธนาคาร

วันนี้ Stripe ประกาศความสำเร็จของบริการใหม่ว่ามียอดใช้จ่ายมากกว่า 500,000 เหรียญสหรัฐต่อวัน โดยระบุว่าเป็นการจ่ายเงินเฉพาะในบริการ startup กลุ่ม collaborative consumption startup นี้เท่านั้น สะท้อนว่าการจ่ายเงินในตลาดนี้เป็นอีกช่องทางที่บริการเจ้าตลาดอย่าง Paypal หรือแม้แต่น้องใหม่อย่าง Square ก็ยังไปไม่ถึง เนื่องจากยังเน้นให้บริการจ่ายเงินเข้าสู่บัญชีของผู้ค้าหลายเดียว

แม้ Stripe จะไม่เปิดเผยยอดชำระเงินในภาพรวม ระบุเพียงว่ามีการจ่ายเงินหลายล้านเหรียญสหรัฐต่อวัน แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าตลาดจ่ายเงินสำหรับบริการ startup กลุ่ม collaborative consumption startup นี้จะเติบโตต่อเนื่องในอนาคต เพราะไม่ว่ายอดชำระเงินของ Stripe จะเป็น 5 หรือ 10 ล้านเหรียญต่อวัน แต่สัดส่วนครึ่งล้านเหรียญก็แสดงแนวโน้มได้ชัดเจนว่าตลาดนี้กินส่วนแบ่งในระดับที่น่าสนใจ

ทั้งหมดนี้ ซีอีโอของ Stripe อย่าง Patrick Collison ระบุว่าเหตุผลที่ทำให้ Stripe สามารถเจาะตลาดบริการชำระเงินแก่สตาร์ทอัปกลุ่ม collaborative consumption startup ได้ คือการลดภาระที่บริการจำเป็นต้องจัดการได้อย่างเป็นรูปธรรม ตัวอย่างเช่น Lyft ที่เคยต้องรับเงินจากลูกค้าผู้เช่ารถหลายรายมาเก็บไว้ที่ตัวเอง จากนั้นจึงกระจายเงินไปยังเจ้าของรถอีกครั้ง ความยุ่งยากนี้หมดไปเมื่อ Stripe สามารถพัฒนาเทคโนโลยีที่เข้ามาจัดการงานส่วนนี้ได้ ซึ่งเดิมที Stripe ต้องใช้พนักงานเต็มเวลามากกว่า 10 เพื่อจัดการจ่ายเงินในส่วนนี้

สำหรับ Lyft นั้นเป็นบริการที่ต่างชาติเรียกว่า Car-Sharing สิ่งที่ Lyft ทำคือสร้างแอปพลิเคชันบนไอโฟนและแอนดรอยด์ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเรียกรถแท็กซี่ได้ในเวลาไม่ถึง 1 นาที แต่ความพิเศษคือแท็กซี่ที่ Lyft จัดให้นั้นเป็นคนธรรมดาที่มีรถเป็นของตัวเองและอยากหารายได้พิเศษเล็กน้อย ซึ่ง Lyft จะเข้ามาตรวจสอบภูมิหลังด้านอาชญากรรมก่อนจะยอมให้ผู้ขับขี่เหล่านี้ลงทะเบียน ผลคือวันนี้ Lyft มีรถที่อาสารับลูกค้ามากกว่า 3 หมื่นคันใน 4 เมืองใหญ่ ได้แก่ ซานฟรานซิสโก ลอสแองเจลิส ซีแอตเทิล และชิคาโก แถมยังได้รับเงินทุนเพิ่มมากกว่า 60 ล้านเหรียญจาก Andreessen Horowitz เมื่อเดือนที่แล้ว (พฤษภาคม 2013) หลังจากก่อตั้งอย่างเป็นทางการในปี 2007

ที่มา: Techcrunch และ Times