Site icon Thumbsup

เคล็ด(ไม่)ลับ กับการใช้บัตรเครดิต Cashback สู้วิกฤติ COVID-19

ใช้บัตรเครดิต Cashback สู้วิกฤติ COVID-19

ในช่วงของสถานการณ์วิกฤตเพราะ COVID-19 แบบนี้ แน่นอนว่าไม่มีใครทราบว่าจะมีจุดสิ้นสุดเมื่อไหร่ แล้วภาพรวมการใช้จ่ายจะกลับมาคึกคักเหมือนเดิมหรือไม่ มีมนุษย์เงินเดือนและเจ้าของธุรกิจรายย่อยหลายคน ที่มีความกังวลว่าจะใช้ชีวิตอย่างไร

ดังนั้น ลองมาศึกษาวิธีบริหารจัดการเรื่องเงินทองกันค่ะ โดยวันนี้จะเริ่มต้นที่การบริหารการเงินด้วยการใช้บัตรเครดิตอย่างถูกวิธี ซึ่งเราจะขอแนะนำบัตรเครดิต Cashback TMRW เพื่อให้ได้เห็นสิทธิประโยชน์ที่น่าสนใจมากมายเลยค่ะ เช่นการได้สิทธิ์ Cashback หรือการนำคะแนนมาแลกของใช้ต่างๆ ซึ่งทั้งหมดนี้น่าจะทำให้ผู้ถือบัตรเครดิตผ่านพ้นวิกฤต COVID-19 ไปได้ไม่มากก็น้อย

จัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย : เรื่องของการทำบัญชีรายรับรายจ่ายนั้น ยังคงเป็นเรื่องง่ายๆ ที่เรามักมองข้ามกัน เพราะเชื่อว่าทำไปก็เสียเวลา หรือบางคนมองว่าทำไปก็ไม่เคยนำกลับมาอ่าน แต่คุณรู้หรือไม่คะ การทำบัญชีรายรับรายจ่ายนั้น จะช่วยให้เราเห็นการใช้จ่ายว่ามีอะไรบ้าง จากนั้นจะได้ทราบว่าเราใช้จ่ายเกินตัวไปหรือไม่ ค่าใช้จ่ายส่วนไหนจำเป็นต้องเร่งเคลียร์และรายจ่ายไหนที่ควรพักเพื่อเก็บเงินก้อนไว้ให้อุ่นใจ

ดังนั้น การใช้งานบัตรเครดิต Cashback TMRW ก็จะช่วยให้ผู้ถือบัตรสามารถจัดทำบันทึกรายรับรายจ่ายได้ง่ายขึ้น เพราะเมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ทุกธุรกรรมก็จะถูกบันทึกไว้ และสามารถจดบันทึกแบบระบุหมวดหมู่การใช้จ่ายได้ด้วย ทำให้ผู้ถือบัตร ทราบว่าในแต่ละเดือนใช้จ่ายอะไรไปบ้าง เมื่อรวมกับสิทธิประโยชน์ด้าน Cashback และบริการอื่นๆ มันก็ตอบโจทย์ช่วงวิกฤตนี้ได้ดี

ควบคุมการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น : เมื่อเราทราบแล้วว่ามีเงินเหลือในบัญชีเท่าไหร่ เราก็จะทราบว่าส่วนไหนควรเพิ่ม ส่วนไหนควรลด เช่น ลดการสั่งอาหารเดลิเวอรี่ มาเป็นการซื้ออุปกรณ์ทำอาหารมาทำกินเอง แต่คงไม่ต้องถึงขั้นซื้อตุนนะคะ เพราะการสั่งวัตถุดิบมากเกินไป อาจเกิดภาระในการจัดเก็บในตู้เย็น ซึ่งอาจกลายเป็นว่าค่าไฟก็แพงขึ้น อาหารเหลือก็ต้องทิ้งไปเสียอีก การสั่งซื้อวัตถุดิบแต่พอดีในการทำกินภายใน 1 สัปดาห์ จะช่วยให้เราควบคุมงบในการซื้ออาหารและวางแผนเงินที่จะใช้ในการวางแผนทำแต่ละเมนู ทำให้เราเหลือเงินไปใช้จ่ายด้านอื่นๆ ได้ด้วย

ทั้งนี้ การวางแผนเรื่องของลิมิตวงเงินการใช้งานบัตรเครดิต Cashback TMRW สามารถช่วยให้เราระบุรายละเอียดให้ชัดเจนเลยว่าในแต่ละเดือนผู้ถือบัตรใช้จ่ายกับสินค้า หรือบริการประเภทใดไปบ้าง ก็ทำให้ผู้ถือบัตรควบคุมค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นได้ไม่ยาก

และเป็นการได้ Cashback ทางอ้อมเช่นเดียวกัน เพราะเมื่อเราไม่ใช่จ่ายในสินค้าบางประเภทมากเกินไป ตัวการใช้วงเงินบัตรเครดิตในแต่ละเดือนก็จะลดลงควบคุมการเสียใช้จ่ายได้ ยิ่งใช้บัตรเครดิต Cashback จากสินค้าและบริการหลายรูปแบบ ก็ยิ่งช่วยผู้ถือบัตรควบคุมค่าใช้จ่ายได้

หารายได้เสริม : แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนจะสามารถขายของออนไลน์ได้ เพราะความสามารถแต่ละคนแตกต่างกัน การหารายได้เสริมได้นั้น อาจจะเริ่มมองจากความสามารถพิเศษรอบตัวคุณก่อน ว่ามีเรื่องไหนที่คุณถนัดและสามารถทำได้ เช่น ถ้าคุณถนัดเขียน ลองสมัครรับงานเขียนฟรีแลนซ์ในกลุ่มหรือเพจต่างๆ ที่เปิดรับสมัคร หรือรับเขียนงานโปรโมทสินค้าสั้นๆ หรือรับดูแลเพจออนไลน์ก็ยังได้ ถ้าเก่งกราฟิกก็รับออกแบบโลโก้หรือวาดการ์ตูนสำหรับคนทำคอนเทนต์ก็เป็นได้นะคะ หรือถ้าคุณถนัดพูดหรือพรีเซ้นต์ลองไปสมัครแชนแนลในยูทูปรับรีวิวสินค้าเพื่อหารายได้เสริมก็ได้ค่ะ มองหาความถนัดในตัวคุณและลงมือทำเลยค่ะ

แต่การจะหารายได้เสริมก็อาจจำเป็นจะต้องเดินทางออกไปนอกบ้าน เพื่อลงทุนเรื่องอุปกรณ์เพิ่มเติมในบางกรณี แน่นอนว่าหากคุณเดินทางด้วย GRAB ที่ตัดเงินค่ารถผ่านบัตร TMRW ก็จะได้รับสิทธิ์ Cashback สูงถึง 15% ด้วย หรือถ้าต้องเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินหากรูดบัตรจ่ายค่าเดินทางขั้นต่ำ 300 บาท ก็ได้รับเครดิตเงินคืน 15% เช่นกัน

ดังนั้น การมีบัตรเครดิตที่ตอบโจทย์การทำอาชีพเสริมได้ ก็ช่วยเพิ่มรายได้ใหม่ๆ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพยิ่งกว่าเดิม

หาข้อมูลเกี่ยวกับมาตราการช่วยเหลือ : ในช่วงที่เงินเดือนอาจลดลงเพราะปัญหาเรื่องการทำงาน หรือการเข้ามาช่วยเหลือของหน่วยงานภาครัฐในด้านประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์ หรือการลดดอกเบี้ย เลื่อนการชำระหนี้ ของกลุ่มธนาคาร Non-bank ต่างๆ โดยดูมาตรการที่เหมาะสมและเราสามารถปรับใช้ได้ เช่น การผ่อนชำระของบัตรเครดิตต่างๆ ถ้าไม่ไหวจริงๆ อาจลงทะเบียนขอรับสิทธิ์เลื่อนการชำระเงินไปก่อน แต่ก็ต้องดูรายละเอียดให้ชัดเจนด้วยนะคะ ว่าหลังจากนี้จะเจอเรื่องดอกเบี้ยเท่าไหร่ หรือถ้ายังพอมีเงินเก็บก็กัดฟันจ่ายไปก่อน จะได้ไม่ต้องแบกรับปัญหาหนี้ย้อนหลัง หรือยื่นเวลาชำระหนี้ เพราะเราไม่อาจคาดเดาได้ว่าในอนาคตจะมีเงินหมุนทันหรือไม่

ในทางกลับกัน การมีบัตรเครดิต TMRW ที่มีสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับ Cashback ก็สามารถช่วยให้ผู้ถือบัตรลดภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนได้ไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะเลือกช้อปปิ้งออนไลน์ผ่าน Shopee ก็สามารถรับเครดิตเงินคืน 15% เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตร TMRW พร้อมทั้งการใช้บริการวิเคราะห์การใช้จ่ายให้คุณมีเงินเหลือเก็บ จะยิ่งช่วยให้คุณวางแผนการใช้จ่ายได้เหมาะสมขึ้น

นอกจากนี้ การได้รับเครดิตเงินคืนหรือ Cashback ก็เท่ากับว่าในรอบบิลบัตรเครดิตถัดไปตัวค่าใช้จ่ายรวมก็จะลดลงโดยอัตโนมัติ ดังนั้นเวลาจะหาบัตรเครดิตสักใบก็อย่าลืมศึกษาจุดเด่นในเรื่องนี้ด้วย

 

คุ้มค่าทุกการใช้จ่าย : ในเรื่องของการใช้จ่ายเงินในอนาคตหรือบัตรเครดิตนั้น ต้องยอมรับว่าในสถานการณ์ที่เรายังไม่มีเงินสดในการสำรองจ่าย การถือบัตรเครดิตสักใบก็เป็นอีกหนึ่งทางออกที่ดี การเลือกบัตรเครดิตที่ดีนั้น ควรมี 3 แนวคิดหลักคือ

วันนี้ เราจึงมาแนะนำบัญชีเงินฝากและบัตรเครดิต TMRW ที่เปิดบัญชีเงินฝากพร้อมสมัครบัตรเครดิต TMRW จะได้รับ Cashback 3% ตามไลฟ์สไตล์ที่เลือกได้ เพียงแค่ทำภารกิจให้สำเร็จในแต่ละเดือน ไม่ต้องกลัวว่าภารกิจนั้นจะยาก เพียงแค่คุณจ่ายบิล 2 ครั้ง/เดือน ด้วยบัญชีเงินฝาก TMRW Everyday ร่วมกับ โอนเงิน 2 ครั้ง/เดือน ด้วยบัญชีเงินฝาก TMRW Everyday แค่นี้ก็รับเครดิตเงินคืนได้ง่ายๆ แล้ว

เงื่อนไขเพิ่มเติม 

  1. ตั้งแต่ 1 พ.ค.62 – 30 มิ.ย. 63 ท่านจะได้รับ Cashback สูงสุดหมวดละ 300 บาท/เดือน เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต TMRW ในหมวดร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และท่องเที่ยว หรือ 3 หมวดที่คุณเลือกได้เอง เมื่อทำรายการผ่านบัญชี TMRW Everyday ตามที่ธนาคารกำหนดสำเร็จ (ปกติหมวดละ 100 บาท/เดือน)
  2. จำกัดเครดิตเงินคืนรวมสูงสุด 2,000 บาท/เดือน
  3. การคำนวณเครดิตเงินคืนไม่รวมยอดใช้จ่ายจากการเบิกเงินสดล่วงหน้า, กองทุน, ค่าธรรมเนียมการโอน,การประกันภัย,ดอกเบี้ย, ค่าธรรมเนียม,การแปลง IPP, การผ่อนชำระ และการจ่ายบิล
  4. อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.tmrwbyuob.com/th/th/products/credit-card.html

 

บทความนี้เป็น Advertorial