ในยุคที่ Mobile กลายเป็นเครื่องมือสำคัญและช่องทางที่แบรนด์ต่างๆ สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรง และถ้าผลสำรวจของเว็บไซต์ของคุณมีผู้ใช้กว่า 10% มาจากการใช้งานผ่านทางโทรศัพท์แล้วละก็ ถึงเวลาแล้วที่คุณควรให้ความสนใจและจัดการกับช่องทางนี้ให้ดี

~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*

แม้บทความนี้จะเน้นหนักเรื่องของ Mobile Site แต่ก่อนที่จะไปถึงจุดนั้น เชื่อว่าหลายคนมีคำถามนี้อยู่ในใจ นั่นคือ ?เมื่อกล่าวถึงการเข้าใช้งานบนโทรศัพท์มือถือ เราควรพัฒนาในรูปแบบ Mobile Site ดี หรือควรทำเป็น Branded Application ดี?

และนี่คือสิ่งสิ่งที่คุณจะต้องพิจารณาและมันจะเป็นตัวบ่งชี้ว่าคุณควรไปในทิศทางไหน

ต้นทุน, การหารายได้ – แน่นอนว่าต้นทุนการทำ Mobile Site นั้นถูกกว่ามาก ไม่ต้องมาปวดหัวจัดการกับการพัฒนา Application ในหลายๆ แพลตฟอร์มทั้ง? iOS, Android, Blackberry และอื่นๆ และอย่างกรณีของ Apple ไหนยังต้องรอการอนุมัติอีก แต่ถ้าคุณคิดจะหารายได้จากการขายไอเทมต่างๆ บน Store นั่นค่อยเป็นอีกเรื่องหนึ่ง โดยที่นั่นมีระบบหน้าร้านและการชำระเงินไว้พร้อมแล้ว

การใช้งาน – ถ้าเน้นแค่การใช้งานเพื่อดูข้อมูลข่าวสาร และต้องการเข้าถึงคนกลุ่มใหญ่จากหลายๆ แพลตฟอร์ม Mobile Site เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ได้ดี

ฟีเจอร์ – แน่นอนว่า Mobile Site จะไม่สามารถทำอะไรที่หรูหราอลังการณ์ได้แบบ application ถ้ามีความต้องการที่้อยากสร้างประสบการณ์การใช้งาน การสร้างการมีส่วนร่วม (engagement)? อะไรที่ต้องดึงความสามารถจากเครื่องอย่างจริงจัง อาทิเช่น ต้องนำกล้องหรือฟังก์ชั่น GPS มาประยุกต์ใช้ในรูปแบบที่ advance การพัฒนาด้วย application? จะตอบโจทย์ในจุดนี้ได้

การเชื่อมต่อ – แน่นอนว่า Application สามารถเก็บข้อมูลและทำงานแบบออฟไลน์ได้ เราอาจจะซิงค์ข้อมูลในภายหลังจากที่ออนไลน์แทน ถ้ามีจุดประสงค์การใช้งานในรูปแบบนี้ Application คือสิ่งที่ตอบโจทย์

~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*

และถ้าอ่านมาถึงจุดนี้แล้วคุณรู้ว่า Mobile Site คือสิ่งที่ตอบโจทย์ทางธุรกิจของคุณ เราก็ไปต่อกันเลยค่ะ

ผลสำรวจจาก Limelight Networks กล่าวว่า ?กว่า 80% ของผู้ใช้จะไม่ดูข้อมูลบน Mobile Site ต่อ ถ้าไม่สามารถนำเสนอประสบการณ์ที่ดีพอ? พูดง่ายๆ ก็คือวันนี้แบรนด์ต่างๆ มี Mobile Site แล้วหรือยัง ไม่ใช่ว่าเว็บไซต์ของคุณจะเปิดได้บนโทรศัพท์ก็เพียงพอ แต่หมายถึงการที่ เปิดเข้าไปแล้วสามารถที่จะให้ประสบการณ์ที่ดี เห็นหน้าจอที่พอเหมาะพอดีกับเครื่องโทรศัพท์ ให้ข้อมูลที่จำเป็นและเพียงพอกับหน้าจอที่มีขนาดเล็ก ไม่ใช่ยัดเยียดทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไป

GoMo คือหนึ่งในโครงการที่ทาง Google สร้างขึ้นมาและมีข้อมูลดีๆ ที่น่าสนใจให้อ่านอยู่มากมาย และนี่เป็นตัวอย่างปัจจัยสำคัญๆ 6 ประการในการทำ Mobile Site ให้ดี

1) ความเร็วนั้นสำคัญยี่ง
คุณลองคิดดูว่าการใช้งานผ่านหน้าจอโทรศัพท์เล็กๆ นั้นๆ ถ้าเกิดเปิดขึ้นมาต้องรอโหลดหน้าเพจนาน คงไม่มีใครทนรอเป็นแน่แท้ การออกแบบเพจให้โหลดได้เร็ว การจัดลำดับคอนเทนต์และฟีเจอร์ต่างๆ ว่าสิ่งไหนสำคัญกับผู้ใช้เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงให้มาก อะไรที่ผู้ใช้ควรต้องเห็นก่อน เป็นต้น เครื่องมือ Analytic ต่างๆ ที่ใช้ดูพฤติกรรมผู้บริโภคจึงมีความสำคัญในการนำมาวิเคราะห์และพิจารณา

การออกแบบ bullet ให้ดูง่าย, การบีบอัดรูปให้เล็กและสามารถโหลดได้เร็วก็เป็นสิ่งที่ต้องทำเช่นเดียวกัน

2) การทำธุรกรรมบน Mobile Site ต้องง่าย
ไม่ว่า Mobile Site ของคุณจะทำมาเพื่อจุดประสงค์อะไรก็แล้วแต่ แต่อย่าลืมว่าหน้าจอโทรศัพท์ไม่ได้มีคีย์บอร์ดหรือเม้าส์ที่ใช้ทำธุรกรรมต่างๆ ได้ง่าย ดังนั้นสิ่งที่ควรทำคือ

  • มุ่งไปที่ข้อมูลที่ช่วยนำไปสู่ธุรกรรมเป้าหมายหลักเหล่านั้น เช่น รายละเอียดสินค้า
  • ลดขั้นตอนในการทำธุรกรรมให้น้อยที่สุด
  • ถ้ามีการกรอกฟอร์มอะไรก็ควรเป็นฟอร์มที่สั้นและ fields น้อยๆ
  • ใช้ check boxes, lists และพวก scroll menus เพื่อให้ง่ายต่อการป้อนข้อมูล
  • ต้องมี click-to-call ฟังก์ชั่นให้พร้อม ถ้าต้องการโทรติดต่อหาเบอร์โทรศัพท์ของบริษัทโดยตรง
  • และที่สำคัญต้องอย่าลืม Track และคอย Monitor ดูผลจากการทำธุรกรรมเหล่านั้นอย่างต่อเนื่อง

3) การท่องไปใน Mobile Site ต้องง่าย

  • ออกแบบออกมาให้อยู่ในแนวตั้ง แล้วใช่เลื่อนขึ้นลง เอาให้พอดีกับหน้าจอไม่ต้องมาคอยซูมเข้าออก
  • เมนูต่างๆ ออกแบบให้เป็นลำดับชัดเจน
  • มีปุ่ม back และ home ที่เห็นได้ชัด
  • ในเพจหนึ่งไม่ต้องมีลิงค์เยอะมาก 7 ลิงค์ก็มากพอแล้ว
  • อย่าลืมที่จะต้องติดตั้ง search box เอาไว้ในหน้าที่มีความซับซ้อน

4) ข้อมูล Local
ความสามารถของเครื่องโทรศัพท์ในยุคนี้ที่สามารถระบุตำแหน่งได้กลายเป็นเรื่องธรรมดามากๆ เมื่อเทียบกับ 10 ปีก่อน ผู้ใช้ส่วนใหญ่ก็ต้องการค้นหาข้อมูลที่อยู่ใกล้ๆ ในขณะนั้น จงอย่าลืมที่จะใส่ฟังก์ชั่นที่ช่วยให้พวกเขาหาร้านของคุณเจอ ไม่ว่าจะเป็นเมนูการค้นหาสาขาใกล้ๆ แสดงผลเป็นแบบแผนที่และทิศทาง นำเสนอโปรโมชั่นหรือดีลพิเศษต่างๆ ในตอนนั้น เป็นต้น

5) ยุคแห่งนิ้วโป้ง
พยายามออกแบบหน้าจอรองรับแม้แต่คนนิ้วใหญ่ก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นปุ่มหรือช่องว่างต่างๆ ควรพอดี ป้องกันไม่ให้กดพลาด

6) ให้ประสบการณ์ที่ดีในแบบ seamless ทุกๆ ช่องทาง
ฟังก์ชั่นอะไรก็ตามที่เราคุ้นชินบน Desktop และให้ประสบการณ์ที่ดีควรต้องดึงมา อาทิเช่น การบันทึกข้อมูลการค้นหา, การบันทึกสินค้าที่อยุ่ในตะกร้าไม่ต้องมาค้นกันใหม่, คงไว้ซึ่งฟีเจอร์หลักๆ ที่มีอยู่ในแต่ละช่องทางให้เหมือนๆ กัน รวมถึงการแสดงข้อมูลสินค้าและผลิตภัณฑ์ของคุณก็ต้องตรงกัน

7) ออกแบบเพื่อรองรับการมองเห็น

  • พยายามทำพื้นหลังและตัวหนังสือให้ตัดกันเพื่อที่จะอ่านได้ชัด
  • เนื้อหาที่ใส่ลงไปจะต้องพอดีกับหน้าจอไม่ต้องมาคอยซูมอีก
  • ออกแบบพวกช่องว่างต่างๆ ให้เพียงพอ
  • ใช้สีและขนาดที่ระบุลิงค์และปุ่มอย่างชัดเจน
  • พวกปุ่มควรทำเป็นแบบ 3D และมีเงาให้ดูชัดๆ

8) ใช้ Mobile Site Redirect
Mobile Site Redirect คือ โค้ดที่สามารถบอกได้ว่าผู้ใช้เล่นจากอุปกรณ์โทรศัพท์และทำการแสดงผลในรูปแบบของ Mobile Site ให้กับผู้ใช้รายนั้น แต่ยังมีสิ่งที่ควรคำนึงถึงเพิ่มเติมด้วยเช่นกันดังต่อไปนี้

  • เปิดให้ผู้ใช้มีสิทธิเลือกกลับไปอ่านแบบ Desktop เวอร์ชั่นได้เช่นกัน และต้องง่ายในการกลับมาดูแบบ Mobile Site
  • ให้ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะดูด้วยเวอร์ชั่นไหนในภายหลัง
  • ใส่ข้อมูลที่สำคัญๆ บนหน้า Redirect Page เช่น ที่อยู่ของคุณหรือตำแหน่งร้าน

9) ทำให้เข้าถึงได้มากที่สุด
พยายามลดปัญหาข้อจำกัดของอุปกรณ์เพื่อให้เข้าถึงผู้ใช้ได้มากที่สุด อาทิเช่น

  • บางเครื่องอาจไม่รองรับ Flash พยายามหารูปแบบการนำเสนอที่ลดปัญหาดังกล่าว
  • ใช้ HTML5 สำหรับงานที่ต้องอินเตอร์แอคทีฟ และอนิเมชั่น
  • รองรับทั้งแบบที่อ่านแบบแนวตั้งและแนวนอนไว้ให้พร้อม

10) ฟังเสียงผู้บริโภคให้มาก

  • ใช้เครื่องมือต่างๆ ในการวิเคราะห์และ track ดูเพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้ของคุณ
  • อย่าลืมที่จะทำการทดสอบก่อนเปิดตัวใช้งานจริง นำฟีดแบคที่ได้จากผู้ทดสอบมาพิจารณาว่าใช้งานง่ายมากน้อยเพียงใด
  • พยายามพัฒนาและปรับปรุงเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับใครที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมกรณีศึกษาสามารถดูได้ที่โครงการ GoMo ของ Google และถ้าใครมี Mobile Site เป็นของตนเองอยู่แล้ว ลองมาแบ่งปันประสบการณ์การพัฒนา Mobile Site ของคุณให้กับเพื่อนๆ ในนี้ได้ทราบกันบ้างนะคะ

แหล่งที่มา: HowtoGoMo, Econsultancy

Involving with direct experience and competency in Telecommunication industry on both sides of operators and foreign suppliers for more than decade long. The former Engineer turned to Product Development and Marketing in charge of Value Added Services on 3G network. She has been frequently invited as special speaker by various institutions and organizations, as well as has written many academic articles for the topics of Telecom Industry, Mobile Marketing and Startup Scene.