เรื่องการช่วยเหลือประชาชนนั้น เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องเร่งด่วนที่ภาครัฐให้ความใส่ใจไม่แพ้เรื่องการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 กันเลยนะคะ แม้จำนวนผู้ป่วยจะมีทิศทางที่ดีขึ้น คือ ผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตลดลง แต่ก็ต้องเร่งฟื้นฟูให้ประชาชนอยู่ได้ เศรษฐกิจภาพรวมอยู่รอด วันนี้เรามาดูกันค่ะ ว่าแต่ละประเทศที่มีมาตรการช่วยเหลือประชาชนนั้น มีอันไหนน่าสนใจและนำมาปรับใช้กับประเทศไทยได้บ้าง

ประเทศไทย

  • โครงการ “เราไม่ทิ้งกัน” รับเงินเยียวยา 5,000 บาท
  • ประกันสังคม : กรณีว่างงาน ผู้ถูกเลิกจ้าง จะได้รับเงินชดเชยในอัตราร้อยละ 50 เป็นเวลาไม่เกิน 60 วัน
  • ประกันสังคม : กรณีไม่ได้ทำงานหรือนายจ้างไม่ให้ทำงานด้วยเหตุสุดวิสัย จะได้รับเงินชดเชยในอัตราร้อยละ 50 เป็นเวลาไม่เกิน 180 วัน
  • ลดค่าน้ำ-ค่าไฟ เป็นเวลา 3 เดือน (เม.ย.-มิ.ย.) คืนค่าประกันการใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัย-กิจการขนาดเล็ก 21.5 ล้านราย วงเงิน 30,000 ล้านบาท และตรึงอัตราค่าไฟ (FT) เดือนพฤษภาคม 2563 ในอัตรา 11.60 สตางค์/หน่วย วงเงิน 4,534 ล้านบาท
  • เลื่อนชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปีภาษี 2562 จากสิ้นสุด 31 มี.ค. 63 เป็นสิ้นสุด 31 ส.ค.63
  • ยกเว้นค่าเช่าที่ราชพัสดุ 1 ปีให้กับผู้อาศัย-เกษตรกร
  • พักชำระหนี้ในกลุ่มธนาคารเอกชนและธนาคารของรัฐ

ญี่ปุ่น

  • มอบเงินครัวเรือนละ 3 แสนเยน (ประมาณ 91,000 บาท)
  • พนักงานลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบให้วันละ 8,330 เยน (ประมาณ 2,500 บาท)
  • กู้เงินฉุกเฉิน 100,000-200,000 เยน โดยไม่มีดอกเบี้ย

สิงคโปร์

  • บุคคลที่อายุ 21 ปีขึ้นไป รับเงินช่วยเหลือคนละ 600 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 14,000 บาท)
  • ช่วยเหลือบริษัทจ่ายชดเชยเงินค่าจ้างให้พนักงานคนละ 4,600 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 1 แสนบาท)

ฮ่องกง

  • บุคคลที่อายุ 18 ปีขึ้นไป รับเงินช่วยเหลือคนละ 10,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 42,000 บาท)
  • ช่วยลดภาษีกำไรให้ผู้ประกอบการ ให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำวงเงินไม่เกิน 2 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง ลดภาษีกำไรปี 62-63
  • ลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
  • ยกเว้นภาษีที่อยู่อาศัย ยกเว้นค่าเช่า 1 เดือนสำหรับผู้มีรายได้น้อย
  • ให้เงินช่วยเหลือพิเศษสำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการ จำนวนเท่ากับเบี้ยเลี้ยง 1 เดือน
  • ยกเว้นค่าธรรมเนียมสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยสำหรับนักเรียน

มาเลเซีย

  • ประชาชน 4 ล้านครัวเรือนที่มีรายได้ 4,000 ริงกิต (ประมาณ 30,000 บาท) หรือต่ำกว่า ได้รับเงิน 1,600 ริงกิต (ประมาณ 12,000 บาท)
  • อายุ 21 ปีขึ้นไปที่มีรายได้ 2,000 ริงกิต (ประมาณ 15,000 บาท) หรือต่ำกว่า ได้เงินช่วยเหลือ 800 ริงกิต (ประมาณ 6,000 บาท)
  • ผู้ที่มีรายได้ 4,000-8,000 ริงกิต ได้รับเงินช่วยเหลือ 1,000 ริงกิต (ประมาณ 3,700 บาท)
  • คนโสด อายุ 21 ปีขึ้นไป ที่มีรายได้ 2,000-4,000 ริงกิต ได้รับเงินช่วยเหลือ 500 ริงกิต (ประมาณ 3,700 บาท)
  • พักชำระหนี้ 6 เดือน
  • มอบเงินช่วยเหลือเดือนละ 600 ริงกิต (ประมาณ 4,500 บาท) สำหรับผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 4,000 ริงกิต
  • ไม่อนุญาตให้นายจ้างลดเงินเดือนลูกจ้างที่ได้เงินเดือนต่ำกว่า 4,000 ริงกิต
  • ข้าราชการและข้าราชการเกษียณ ได้รับเงิน 500 ริงกิต
  • เจ้าหน้าที่ศุลกากร/ตรวจคนเข้าเมือง ได้เบี้ยเลี้ยง 200 ริงกิต/เดือน (ประมาณ 1,500 บาท)

สหรัฐอเมริกา

  • ชาวอเมริกาที่บรรลุนิติภาวะแล้ว จะได้รับเงินเยียวยา 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 39,000 บาท)
  • คู่สมรสที่มีรายได้รวมกัน 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ รับเงินช่วยเหลือ 24,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 78,000 บาท) และได้รับเงินเพิ่มตามจำนวนบุตรอีก 500 ดอลลาร์สหรัฐ
  • ตรวจหาเชื้อไวรัสฟรีทุกกรณี

สหราชอาณาจักร

  • ประกาศแผน Statutory Sick Pay จะมีการจ่ายเงินชดเชยให้กับธุรกิจ SMEs มีพนักงานไม่เกิน 250 คน และให้กับผู้ติดเชื้อหรือผู้ที่ต้องกักกันตนเองเพื่อรอดูอาการ จะได้รับเงินชดเชยเป็นเวลา 2 สัปดาห์
  • ประกาศแผน Job Retention Schemes โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือให้กับบริษัทที่ไม่ได้เลิกจ้างพนักงานสูงสุด 80% หรือ เดือนละ 2,500 ปอนด์ต่อคน เป็นเวลา 3 เดือน

อินโดนีเซีย

  • เพิ่มงบประมาณ Social Security Funds 30% เช่น เงินช่วยเหลือคนจน มูลค่า 4.6 ล้านล้านรูปี เพื่อกระตุ้นการบริโภค
  • ให้เงินสมทบเพื่อช่วยค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยบ้านและเงินดาวน์ ให้กับผู้มีรายได้น้อย
  • อุดหนุนค่าโดยสารสำหรับการเดินทางไป top 10 destination คิดเป็นมูลค่า 433.9-443.3 พันล้านรูปี

ออสเตรเลีย

  • ให้เงินแก่ครัวเรือนที่เป็นผู้รับสวัสดิการรัฐ ครัวเรือนละ 750 ดอลลาร์ออสเตรเลีย จ่าย 2 ครั้งในเดือนมี.ค. และ ก.ค. 2563
  • ให้เงินช่วยเหลือผู้ว่างงาน คนละ 1,100 ดอลลาร์ออสเตรเลีย โดยจ่ายทุก 2 สัปดาห์เป็นเวลา 6 เดือน
  • อนุญาตให้ถอนเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพื่อการเกษียณ ได้ก่อนกำหนด ปีละ 10,000 ดอลลาร์ออสเตรเลียในปีงบประมาณ 62-63 และ 63-64
  • มาตรการช่วยเหลือด้านการผ่อนคลายเกณฑ์กองทุนสำรองเลี้ยงชีพและประกันสังคม

 

ที่มา : เจาะใจ, ประชาชาติธุรกิจ , Thaibizchina , kapook

I'm a Content Creator and Storyteller, and i love Shooting my daughter :><: